WN Chapter : 339
ความชั่วร้ายได้ถูกกำราบลงแล้วนั่นเอง
รู้สึกเหมือนวันเวลาผ่านไปเนิ่นนาน แต่ถึงอย่างนั้น... ผมก็รู้สึกราวกับได้กลับถึงบ้านแล้วจริงๆ
ขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับความรู้สึกอิ่มเอมใจอยู่เงียบๆ ประตูหน้าของคฤหาสน์... จู่ๆ ก็ถูกเปิดออกอย่างแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ
[ อ๊ะ? ลูน่ามาเรียซัง? ]
[ ทะ ท่านมิยามะหรอกเหรอ!? ยะ ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ... มะ มาได้จังหวะพอดีเลย! ]
[ ...เอ๊ะ? ]
[ ดะ ได้โปรดช่วยฉันที! ]
ลูนามาเรียซังพลันกระโจนออกจากบ้านด้วยท่าทางตื่นตกใจ เธอขอให้ผมช่วยเธอด้วยใบหน้าอ้อนวอนขอร้อง ก่อนจะรีบซ่อนตัวด้านหลังผม
ขณะที่ผมกำลังงุนงงกับสิ่งที่เกิดกระทันหัน เสียงตะโกนพร้อมความโกรธเกรี้ยวก็ดังกึกก้องมาไม่ห่าง ทั่วทั้งคฤหาสน์สั่นสะท้านไปกับเสียงนั้น
[ ลูน่าาา!!! ]
[ อึ๊ย!? ]
[ เกิดอะไรขึ้น!? ]
ราวกับบรรยากาศเกิดสั่นไหวเพียงเพราะเสียงตะโกนของลิเลียซัง กระทั่งผมที่ไม่ได้ถูกเรียกชื่อก็ยังขวัญกระเจิง
ทันใดนั้น ลิเลียก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูคฤหาสน์ ท่าทางราวกับปีศาจที่ปีนขึ้นจากขุมนรก ออร่าอันท่วมท้นบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเธอโกรธเพียงใด
ละ ลูน่ามาเรียซัง ไปทำอะไรมาล่ะเนี่ย!? ไหงลิเลียซังถึงได้กลายร่างเป็นปีศาจแบบนั้น... จ จะน่ากลัวเกินไปแล้ว
[ ฉันบอกไปตั้งกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่าเข้าไปใน “ห้องนั้น”...ไม่สิ เดิมที ถ้าแค่เข้าไปเฉยๆ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร... แต่นี่เธอดันกล้าทำแบบนั้นลงไป! ]
[ ชะ ช่วยใจเย็นลงก่อน นะ นายหญิง... นะ นั่นมันอุบัติเหตุ! เป็นแค่อุบัติเหตุ!!! ]
หมายถึงเรื่องอะไรกัน? ห้องๆ นั้น? ห้องที่เธอเพิ่งเข้าไป? อยากรู้จริงๆ ว่าเธอไปทำอะไรมากันแน่? ถึงได้ทำให้ลิเลียซังที่เป็นคนใจดีขนาดนั้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้ขนาดนี้?
[ กล้าดียังไง! เธอกล้าดียังไงถึงได้ทำ “โมเดลมังกรวายุ” ของฉันพัง!!! ]
[ ขะ ขอโทษด้วยจริงๆ!? ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น!!!]
[ ...เอ๊ะ? ]
เอ๊ะ? อะไรนะ? เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ? โมเดล... มังกร?
[ วันนี้ ฉัน... จะไม่ยกโทษให้... เธออีกแล้ว!?]
[ ...อะ เอ่อ... ]
ลิเลียซังที่โกรธจัดทำท่าจะเข้าประชิดตัวพวกเรา จนเมื่อเข้ามาใกล้เธอก็เพิ่งจะสังเกตเห็นผมพร้อมกับที่ร่างกายเธอแข็งทื่อไปโดยพลัน
เกิดบรรยากาศเดดแอร์ชวนน่าอึดอัดระหว่างผมกับลิเลีย หยาดเหงื่อจำนวนมหาศาลไหลอาบใบหน้าของเธอจนชุ่ม
[ ...คะ ไคโตะซัง? กะ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ?]
[ อะ เอ่อ...เมื่อกี้นี้เองครับ แต่จะว่าไป โมเดลมังกรที่ว่านั่น... ]
[ อ้อ มะ ไม่มีอะไรหรอก พะ พูดถึงเรื่องอะไรน่ะ? มะ โมเดลมังกรเหรอ? ฉะ ฉันไม่ค่อยเข้าใจเลยว่าคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร!?]
[ ....... ]
...ลิเลียซัง โกหกคนอื่นได้ไม่เนียนเลยสักนิด เธอกลอกตาไปมาเร็วจนดูมีพิรุธแม้ไม่สังเกตุ...เพราะแบบนี้ เธอถึงหลอกใครไม่เคยสำเร็จเลยสักครั้ง...
ตะ แต่จะว่าไป พอลองคิดๆ ดูผมจำได้ว่าลิเลียซังชอบมังกรเอามากๆ แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะเก็บสะสมโมเดลพวกมันไว้ด้วย...อย่างไรก็ตาม ผมอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์นี้มาเกือบครึ่งปี แต่กลับไม่มีภาพว่าเคยเห็นของพวกนั้นมาก่อนเลย
[ ...มันเป็นงานอดิเรกของนายหญิง ]
[ ลูน่า!?]
[ เอ๊ะ? จำได้ว่าลิเลียซังเคยบอกว่าตัวเองไม่มีงานอดิเรกนี่นา... ]
[ ใช่ แต่นั่นเป็นเพราะเธออยากปิดบังเอาไว้ไง... ]
[ ดะ เดี๋ยวสิ ลูน่า ที่พูดอยู่นั่นหมายถึงเรื่องอะไร... ]
เมื่อลูน่ามาเรียซังเริ่มตอบคำถามของผม ลิเลียซังก็มีท่าทีลนลานย่างเห็นได้ชัด
[ ...ที่ห้องทำงานของนายหญิงมี “ห้องลับ” ซ่อนอยู่...ภายในของห้องๆ นั้น เป็นที่ที่เธอแอบเก็บสะสมโมเดลและเกล็ดของพวกมันเอาไว้ ]
[ ...ลูน่า นี่คือคำสั่ง ห้ามพูดอะไรไปมากกว่านี้...ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำให้เธอไม่กล้าพูดถึงมันอีกตลอดกาลเลย ]
[ อึ๊ย!?]
เธอจะใช้วิธีไหนกันนะ? ไม่ละ อย่าไปสอดรู้เรื่องคนอื่นดีกว่า...ผมคิดว่าก็คงไม่พ้นเรื่องน่ากลัวๆ หรอกมั้ง
[ ผะ ผมไม่รู้มาก่อนเลย ว่าลิเลียซังมีงานอดิเรกแบบนี้ด้วย... ]
[ เอ๊ะ? อ่า มะ ไม่ใช่แบบนั้นนะ ไคโตะซัง!? ฉะ ฉันเพียงแค่...เก็บสะสมมันนิดหน่อยเท่านั้นเอง... ]
[ ...ถึงเธอจะว่างั้น แต่จนกระทั่งเมื่อวานนี้ คอลเลกชันที่เธอเก็บสะสมอยู่ในห้องนั้นมีมากถึง "300 ชิ้น" เชียวล่ะ ]
[ ...ลูน่า บอกแล้วไงว่าห้ามพูด ถ้าเธอยังดึงดันพูดอะไรไปมากกว่านี้ ฉันจะบดขยี้เธอจนกว่าร่างเธอจนไม่เหลือเค้าเดิมเลยคอยดู ]
[ ...ขะ เข้าใจแล้วค่ะ นายหญิง! ดิฉันจะไม่เปิดปากพูดอะไรอีกแล้ว!]
เมื่อถูกลิเลียซังพูดขู่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ลูน่ามาเรียซังก็ปิดปากเงียบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังผมยิ่งกว่าเก่า
อย่างที่คิด แม้แต่ลูน่ามาเรียซังก็ไม่อาจขัดขืนลิเลียซังในเวลานี้ได้
ยะ ยังไงก็เถอะ หากปล่อยให้สถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไปคงอึดอัดกันไม่น้อย...มีอะไรที่ผมพอจะทำได้บ้างไหมนะ...
[ ยะ อย่ากังวลไปเลยครับ? ต่อให้จะมีงานอดิเรกแบบไหน ขอเพียงแค่ตัวเราพึงพอใจไปกับมันก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ครับ... ]
[ คะ คิดอย่างนั้นเหรอ? เอ่อ...มะ ไม่ใช่ว่าฉันทำให้ผิดหวังหรอกเหรอ?]
[ เอ๊ะ? ทำไมผมต้องผิดหวังด้วยล่ะครับ? ]
[ ไม่สิ เอ่อ กะ ก็มันไม่ใช่งานอดิเรกที่ผู้หญิงอย่างฉันควรจะ... ]
อ้อ เป็นงี้นี่เอง เหตุผลที่เธอเก็บซ่อนเอาไว้ ก็เพราะมันดูไม่เหมาะไม่ควรกับเธอที่เป็นกุลสตรีงั้นสินะ...เรื่องแบบนี้ ผมคิดว่าเธอไม่จำเป็นต้องใส่ใจเลยด้วยซ้ำไป
พอเห็นลิเลียซังจ้องมองพร้อมแก้มที่แดงเรื่อ ไหล่ของผมจึงผ่อนคลายลงก่อนจะตอบกลับเธอไปด้วยรอยยิ้ม
[ ผิดแล้วครับ คนแต่ละคนต่างก็มีงานอดิเรกที่แตกต่างกันไป ดังนั้นแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องไปอายใครหรอกนะครับ ยิ่งไปกว่านั้น ผมเองก็คิดว่าเหล่าบรรดามังกรทั้งหลายต่างก็เท่กันไปซะหมดเลยใช่ไหมล่ะ? ]
[ ยะ อย่างนั้นเหรอ... ถะ ถ้าไคโตะซังพูดแบบนั้น... ฉันค่อยเบาใจหน่อย ]
อ้าา ลิเลียซังน่ารัก จังหวะพรูลมหายใจพลางเอามือลูบอกนั้นช่างน่ารักน่าเอ็นดู บอกตามตรงว่าเธอดูไม่เหมือนคนอายุกว่าผมเลยด้วยซ้ำ แม้ผมจะบอกแบบนั้น แต่การที่คนแบบเธอซึ่งในยามปกติมักจะแน่วแน่ ไม่ไหวติง มีอาการลุกลี้ลุกลนบ้างในบางครั้งก็มีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ทันใดนั้น ผมก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองเพิ่งได้รับโมเดลมังกรมาจากกล่องสุ่ม อ้างอิงจากข้อมูลที่ได้จากอลิซ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นสิ่งที่ลิเลียซังอยากได้อยู่พอดี ดังนั้น ผมเลยจะถือโอกาสนี้ยกให้เธอไปเลยดีกว่า...
[ จะ จะว่าไป ลิเลียซัง ก่อนหน้านี้ผมมีโอกาสไปได้เจ้าสิ่งนี้มาครับ... ]
[ ...เอ๊ะ? เอ๊ะ!? นะ นั่นมัน หรือว่าจะเป็น... กล่องสุ่มมังกรโบราณที่ผลิตล็อตแรกแบบจำกัดจำนวน!? ปะ ไปได้มันมาจากไหนเหรอคะ!? ได้โปรดบอกฉันทีว่าคุณไปได้มันมาจากไหน! ขอร้องล่ะนะคะ!!!]
เธองับเหยื่อเร็วมาก!?
[ จะ ใจเย็นๆ ก่อนครับ...ผมเพิ่งได้มันมาจากที่ร้านของอลิซ...ถ้าเธออยากได้มันจริงๆ เดี๋ยวผมยกให้ก็ได้นะครับ ]
[ เอ๊ะ? เอ๊ะ!? จะ จริงเหรอคะ? มะ ไม่ได้หยอกกันเล่นใช่ไหม? ระ เรื่องที่มันเป็นสินค้าที่ผลิตแค่ล็อตเดียวเท่านั้น ทำให้มูลค่าของมันมหาศาล เพราะหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว... ]
[ ผมให้จริงๆ ครับ ถึงผมจะเก็บเอาไว้เองก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร…คิดซะว่าเป็นของขวัญสำหรับแฟนสาวคนสำคัญของผมก็แล้วกันครับ ]
[ ...คะ ไคโตะซัง... ]
ทันใดนั้น ใบหน้าของลิเลียซังก็เจิ่งนองไปด้วยน้ำตา ราวกับว่าเธอซาบซ้ำจากใจจริงก่อนจะรับโมเดลไปด้วยสองมือที่สั่นเทา...ปฏิกิรยาตอบสนองเว่อร์เกินไปแล้ว!?
หลังจากรับไปแล้ว เธอก็กอดโมเดลนั้นเอาไว้ที่ตรงอกอย่างเบามือ พร้อมด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข
ขณะเชยชมใบหน้าแสนน่ารักของลิเลียซัง มันก็ทำให้ผมรู้สึกมีความสุขด้วยเช่นกัน
ไม่นานนัก ผมก็ได้ยินเสียงพึมพำเบาๆ จากทางด้านหลัง
[ ...สะ สมแล้วที่เป็นท่านมิยามะ...สามารถทำให้นายหญิงที่เดือดดาลขนาดนั้นสงบลงได้ง่ายดายเช่นนี้...ลูน่ามาเรียคนนี้ขอแสดงความนับถือจากใจ ]
...ผมไม่ได้ทำเพื่อเธอสักหน่อยเฟ้ย ยัยสาวใช้ไร้ประโยชน์
อะ อ่า ผมดีใจที่เห็นว่าตอนนี้ลิเลียซังกำลังมีความสุข แต่...ผมก็ไม่เห็นด้วยจริงๆ เรื่องที่ลูน่ามาเรียซังแอบเข้าไปในห้องลับแล้วดันทำโมเดลล้ำค่าของลิเลียซังพัง แม้เธอจะบอกว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความผิดเสียหน่อย
อืมม เอาไงดีล่ะ ลิเลียซังคือแฟนสาวของผม...ดังนั้น หากให้จัดลำดับความสำคัญบุคคลก็ต้องเป็นเธอแน่นอนอยู่แล้ว
ระหว่างที่คิดแบบนั้น ผมก็เบนสายตาไปยังจุดๆ นึง...สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเปล่งเสียงในหัวไปยังทิศทางนั้น
( เบลล์~~! เหมือนว่าลูน่ามาเรียซังจะอยากจะเล่นกับนายนะ! เห็นบอกว่าจะเป็นเพื่อนเล่นให้เท่าที่นายต้องการเลยด้วย!!! )
[ ...อ๊ะ? เอ๊ะ? ทะ ท่านมิยามะ? มะ เมื้อกี้ทำอะไรลงไปน่ะ... ]
[ ก๊าวว! ]
[ ห๊ะ!? ดะ เดี๋ยวสิ... ทะ ทั้งที่ปกติแทบไม่อยากให้ฉันสัมผัสตัว แต่ไหงตอนนี้ถึงกำลังวิ่งมาหาฉันแบบเต็มกำลังล่ะ...อ๊ะ หรือว่าเมื่อกี้ท่านมิยามะได้ออกคำสั่งไปใช่มั้ย...ไม่ปฏิเสธสินะ...ว้ากกก!?]
แทบจะในทันใดที่เธอพูดจบ ผมก็ขยับตัวถอยห่างจากลูน่ามาเรียซัง
ลูน่ามาเรียซังที่ยังสับสน พอเห็นเบลล์ที่กำลังวิ่งตรงมาด้วยความเร็วสูงจึงพยายามวิ่งหนีด้วยใบหน้าซีดเผือด
[ เบลล์...ช่วยวิ่งไล่แบบนั้นต่อไปสัก 2 ชั่วโมงทีนะ~~ ]
[ ก๊าววว !]
[ ทะ ท่านมิยามะ!? หะ โหดร้ายเกินไปแล้ว...ชะ ช่วยเมตตาฉันด้วยเถอะคะนายหญิง...เดี๋ยว ว้ากกก จะวิ่งเร็วเกินไปมั้ย!?]
ลูน่ามาเรียซังพยายามวิ่งหนีเบลล์อย่างสุดกำลัง ผมสั่งให้เบลล์ไล่ตามเธอต่อไปแบบนั้นอีกสักพัก เบลล์เป็นเด็กฉลาด เขารู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรออมแรงหรือเอาจริง
ด้วยเหตุนั้น ต่อให้ลูน่ามาเรียซังจะพยายามยังไงก็สลัดเบลล์ที่วิ่งตามเธอด้วยระยะห่างกระชั้นชิดไม่หลุด
แม้เธอจะพูดขอความเห็นใจจากพวกเราอยู่หลายครั้ง แต่เรื่องคราวนี้เธอสมควรโดนทำโทษจริงๆ เราจึงเมินคำพูดเหล่านั้นและกลับเข้าไปในคฤหาสน์ด้วยกันสองคน ลิเลียซังยังคงให้ความสนใจกับโมเดลที่ผมเพิ่งให้เธอไป เมินเพื่อนสาวคนใช้ไปเสียสิ้นตัวตน
———————————
ถึงคุณพ่อคุณแม่ที่รัก——เมื่อผมกลับมาถึงคฤหาสน์ในรอบหลายวันที่ผ่านมา ผมก็ได้เจอกับยัยสาวใช้เจ้าปัญหาในทันที ลูน่ามาเรียซังที่มักจะมาพร้อมนิสัยกวนโอ้ยเป็นปกติ บัดนี้ผมคิดว่าตัวเองสามารถรับมือกับเธอได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้ว สรุปคือ——ความชั่วร้ายได้ถูกกำราบลงแล้วนั่นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น