ตอนก่อนหน้า หน้าหลัก ตอนต่อไป
————————————————————
WN Chapter : 337
วาเลนไทน์นี้กับลิเลีย
ในวันที่ 14 ของเดือนพฤกษา... ลิเลีย อัลเบิร์ต ดัชเชสแห่งอาณาจักรซิมโฟเนีย ขณะนี้เธอกำลังยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เป้าหมายของเธอ แน่ชัดว่าเป็นการมอบช็อกโกแลตให้ไคโตะ ชายผู้เป็นที่รักของเธอ
สำหรับลิเลีย นี่นับเป็นการเดินทางที่ยาวนานกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้
ไม่สิ หากพูดตามหลักความเป็นจริง บ้านของไคโตะตั้งอยู่ใกล้กับคฤหาสน์ของลิเลียชนิดที่เรียกได้ว่าติดกัน โดยจะใช้เวลาเดินเพียงหนึ่งนาทีเท่านั้นเอง... ทว่าสิ่งที่ยากลำบากจริงๆ นั้นไม่ใช่เรื่องระยะทาง แต่เป็นปัญหาด้านทางใจเสียมากกว่า
เธอต้องไปขอให้ซิกลินด์ช่วยสอนทำอาหาร และยังเกือบต้องตัดใจจากการทำช็อกโกแลตครั้งนี้ไปแล้วด้วยซ้ำ
การที่ทักษะทำอาหารสุดพังพินาศของเธอไม่อาจพัฒนาขึ้นได้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ นับเป็นเรื่องน่าเศร้าใจ ว่ากันตามตรง ผลงานของเธอมันเกินขอบเขตจะเรียกได้ว่าดี... แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น ความรักอันมากล้นที่เธออัดแน่นมันลงไปก็ช่วยชดเชยได้อยู่บ้าง
ด้วยเหตุนี้ ลิเลียจึงมีความมั่นใจว่าไคโตะจะต้องพอใจกับของขวัญชิ้นนี้... ทว่าโลกความจริงมันไม่ได้ง่ายดายถึงเพียงนั้น
ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ความเขินอายของลิเลียได้พวยพุ่งขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม... สำหรับเธอ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่จะได้มอบช็อกโกแลตวาเลนไทน์ให้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว อีกทั้งมันยังเป็น "ฮนเมช็อกโก้" อย่างไม่ต้องสงสัย
( สาระเพิ่ม— ช็อกโกแลตตามมารยาท หรือ "กิริโจโกะ" เป็นช็อกโกแลตที่ผู้หญิงมอบให้ผู้ชายในวันวาเลนไทน์ตามธรรมเนียม ซึ่งจะแตกต่างจากช็อกโกแลตจากใจจริง หรือ "ฮนเมโจโกะ" ซึ่งมอบให้กันระหว่างคู่รัก )
แม้เธอจะเป็นคนรักของไคไตะ หรือต่อให้เขาจะเป็นคนที่ใจดีสักเพียงใด... แต่ด้วยนิสัยของลิเลีย มันทำให้เธอประหม่าเกินจะจินตนาการภาพตัวเองที่ยื่นของขวัญให้เขาไม่ออกเลย
เพราะเหตุนี้เอง เธอจึงใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการเดินจนถึงจุดหมาย จากที่ปกติจะใช้เวลาเดินเพียงนาทีเดียวก็เกินพอ
เธอเกือบจะหันหลังกลับอยู่หลายครั้ง แต่อีกใจก็พยายามผลักดันตัวเองให้ไปต่ออยู่หลายหน อย่างไรก็ตาม อุปสรรคที่เธอต้องเผชิญไม่ได้มีเพียงเท่านี้
『 ...กะ กดกริ่งที่ประตู...แล้วเปิดเข้าไป...จากนั้นก็ยื่นของให้ไคโตะที่เดินลงมาต้อนรับ... 』
เบื้องหน้าลิเลียที่พึมพำกับตัวเอง คือ กริ่งหน้าประตูบ้านไคโตะ
สิ่งนี้เป็นอุปกรณ์เวทที่จะส่งเสียงเรียกไคโตะที่อยู่ภายในรู้ตัวเมื่อมีใครมากดมัน นอกจากนี้ เธอยังได้ยืนยันมาก่อนแล้วว่าบรรดาผู้ติดตามของไคโตะ อนิม่าและสองแฝดกำลังออกไปทำธุระข้างนอกกันหมด
และที่บ้านของไคโตะก็ไม่ได้จ้างคนใช้คนอื่นๆ เพิ่มอีกเลย นอกเสียจากสามสาว อนิม่า เอต้าและทีต้าที่ซึ่งตอนนี้ไม่ได้อยู่บ้านกันทุกคน——ดังนั้น ภายในบ้านจึงมีเพียงไคโตะอยู่แค่คนเดียว
มันถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับลิเลีย ที่เพียงแค่เธอใช้นิ้วกดกริ่งหน้าประตู...
『 ...คะ คิดดูอีกที ไว้ฉันค่อยมาใหม่ทีหลังดีกว่าไหมนะ... 』
อย่างไรก็ตาม ลิเลียมักทำผลลัพธ์ได้ไม่ดีเมื่อเป็นเรื่องโรแมนติก เธอยังรู้สึกเขินอายแม้กับคนรักที่คบกันมาได้หลายปีถึงขั้นที่เคยหลับนอนด้วยกันแล้ว
ในครั้งแรกที่ลิเลียพยายามมอบช็อกโกแลตให้ไคโตะ คือเมื่อราวๆ ปีก่อนและอีกหนึ่งปีก่อนหน้านั้น... แม้จะเป็นช็อกโกแลตสำเร็จรูปที่ซื้อมา แต่ก็ถือว่าเธอได้เตรียมมันเอาไว้ กระนั้นแล้ว เมื่อถึงวันจริงเธอกลับไม่กล้ามอบช็อกโกแลตให้เขาจนหมดวันไปอย่างน่าเสียดาย
และเพื่อเป็นการตัดทางหนีแบบคราวก่อน เธอจึงไปขอให้ซิกลินด์ช่วยสอนทำช็อกโกแลต แต่แล้ว... ข้ออ้างมากมายก็ได้ผุดขึ้นจากความเขินอายของเธออีกครั้ง
โดยหารู้ไม่ว่าไคโตะกำลังมองดูภาพดังกล่าวอยู่ เขานั้นรู้สึกสงสัยในใจพลางคิดว่าลิเลียช่างน่ารักเสียจริงๆ...
『 มะ ไม่ได้สิ ฉันจะทำแบบนั้นอีกไม่ได้ ถ้าหากไม่มอบให้เขาตอนนี้ละก็...อะ เอาน่า คราวนี้ต้องทำได้สิ! 』
หลังพูดให้กำลังใจตัวเองเสร็จ ลิเลียก็เริ่มจัดท่ายืนพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อเรียกสติ ก่อนจะยื่นมือไปยังกริ่ง... และตั้งท่าจะกดมัน
『 อะ เอ๊ะ มือมันสั่นไม่หยุดเลย...จะ ใจร่มๆ เข้าไว้นะตัวฉัน... 』
ลิเลียดึงมือที่สั่นระริกกลับและหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้ง... ก่อนจะเริ่มเดินวนเวียนที่หน้าประตูบ้านไคโตะด้วยใจที่ว้าวุ่นสุดขีด
หากจะบอกว่า ภาพตัวเธอในเวลานี้ไม่ควรให้ผู้รับใช้คนใดมาเห็นก็ไม่เกินจริงเลย
อย่างไรก็ตาม ลิเลียทำพลาดมหันต์อยู่เรื่องหนึ่ง... แต่ด้วยจิตใจที่ว้าวุ่นเธอจึงไม่ทันสังเกตุเห็น...
「 เอาไงดีละทีนี้? ผมควรจะเอ่ยทักเธอดีไหมนะ? 」
ตอนนี้ลิเลียซังอยู่ที่หน้าบ้าน... ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าเธอมาทำอะไร แต่ด้วยความสามารถของ "เวทจิตสัมผัส" จึงทำให้ผรับรู้ได้ว่าที่เธอเดินวนเวียนอยู่เช่นนี้ เป็นเพราะเธอกำลังลำบากใจ
มีเรื่องอะไรกับผมหรือเปล่านะ? แต่ไม่ว่าจะดูยังไงก็ไม่เห็นแววว่าเธอจะกดกริ่งเลย นี่ก็ผ่านมานานมากแล้วด้วยสิ
ผมรู้จักกับลิเลียซังมานาน นั่นทำให้ผมรู้ว่าเมื่อไหร่ที่เธอกำลังเขินอายก็มักจะเป็นเช่นนี้เสมอ... ถึงงั้นผมก็ไม่รู้เหตุผลนี่สิ?
ผมมัวแต่คิดหาเหตุผลไปเรื่อยจนลืมนึกไปว่าวันนี้เป็นวันอะไร
อ๋อ วันวาเลนไทน์สินะ... งี้นี่เอง บางทีลิเลียซังคงทำช็อคโกแลตมาให้ผมงั้นละมั้ง
ผมคิดว่าเธอจะไม่สนใจเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์เสียอีก เพราะรู้สึกว่าปีที่แล้วกับปีก่อนหน้ามันเป็นแบบนั้น แต่ก็นะ... ไปได้ว่าเธอเพิ่งรวบรวมความกล้าได้ตอนนี้งั้นหรือเปล่า?
แม้ว่าพวกเราจะคบกันมาได้หลายปีแล้ว แต่ก็ยังมีหลายครั้งที่ผมรู้สึกว่าลิเลียซังช่างไร้เดียงสา... หรือยังเขินอายกับเรื่องบางเรื่องอยู่เลย
ไม่ใช่ว่าผมอยากจะบ่นอะไรหรอก ผมหมายถึงว่าเธอน่ารักจนใจเจ็บเลยนี่สิ และแม้จะอยู่ด้วยกันมาหลายปี แต่เพียงแค่การจูบกันธรรมดาๆ เธอก็หน้าแดงแจ๋จนทำตัวไม่ถูกไปซะแล้ว นั่นยิ่งทำให้เธอดูน่ารักมากจนผมแทบห้ามใจรุกใส่เธอไม่ไหวเลยเชียวละ
หากยังปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป เธอคงไม่กดกริ่งหน้าประตูจนตะวันลับขอบฟ้าเป็นแน่ ดังนั้น... ผมจึงตัดสินใจจะแกล้งทำเป็นเปิดประตูออกไปเจอเธอด้วยความบังเอิญ
『 ว๊ายย!? 』
「 เอ๊ะ? อะอ้าว? ลิเลียซัง... มาอยู่ที่นี่ได้ไงกันครับ? ขอโทษนะ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เธอตกใจ 」
『 มะ มะ มะ ไม่หรอก มะ ไม่ใช่ว่าฉะ ฉันอยู่ตรงนี้มาครึ่งชั่วโมงแล้วหรอกนะ... 』
ลิเลียซัง... ทักษะตี้หน้าซื่อของเธอยังอ่อนหัดเกินกว่าจะไปหลอกใครได้นะ และยิ่งเธอพูดเองว่ารอตรงนี้มาครึ่งชั่วโมงก็คงไม่มีใครไม่รู้สึกกังวลได้หรอก...
สะ สำหรับตอนนี้ ผมควรจะปล่อยผ่านเรื่องเมื่อครู่ไปก่อน
「 จะยืนคุยตรงนี้ก็ยังไงอยู่ เราเข้าไปคุยกันข้างในก่อนเถอะครับ? 」
『 อะ อื้อ! ขอรบกวงหน่อยนะคะ! 』
...อ๊ะ เธอกัดลิ้นตัวเองสินะ ช่างน่ารักเสียจริงๆ
ผมอยากจะเข้าไปกอดเธอให้แน่นซะเดี๋ยวนี้เลย แต่ก็จำใจต้องอดทนเอาไว้ก่อน และเดินนำลิเลียซังไปยังห้องของผม
ทำไมถึงเป็นห้องของผม แทนที่จะเป็นห้องรับแขกหรือห้องทานอาหาร? นั่นเพราะผมรู้จุดประสงค์ของเธอ... และเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เราอาจได้เจอกับอานิมะและคนอื่นๆ ที่กลับมาจากการซื้อของ
ผมจึงพาเธอไปยังห้องของผม และบอกให้ลิเลียซังนั่งลงบนโซฟาขณะที่ผมไปชงชามาให้
ผมวางถ้วยชาลงบนโต๊ะหน้าโซฟา ก่อนจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามกับลิเลียซัง
「 ที่มาหาผมวันนี้มีอะไรเหรอครับ? 」
『 มะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก แค่จุดประสงค์เล็กๆ น้อยๆ น่ะ 』
「 จุดประสงค์? 」
『 อะ อื้ม! เอ่ออ คือ...เอิ่มม...นะ นี่ค่ะ... 』
「 หรือว่านี่จะเป็น... 」
『 อะ อื้ม... มะ มันคือของขวัญวันวาเลนไทน์... คะ คือ ถะ ถ้าไม่อร่อยก็ขอโทษด้วยนะ ฉันขอให้ซิกช่วยสอนและได้พยายามทำเต็มที่แล้ว แต่มัน... 』
「 ตั้งใจทำเพื่อผมเหรอ...ขอบคุณนะลิเลียซัง ผมมีความสุขมากจริงๆ 」
ผมรับกล่องที่ลิเลียซังยื่นให้ด้วยร่างกายที่สั่นระริก
ผมคาดหวังว่าจะเป็นช็อคโกแลตวาเลนไทน์อยู่นิดหน่อย แต่ก็ไม่คิดฝันว่าจะของที่ลิเลียซังลงมือทำด้วยตัวเอง... อาา ดีใจจัง เรื่องรสชาติจะเป็นยังไงก็ช่าง แค่เพียงความรู้สึกจากใจก็มากเกินพอแล้ว ผมรับมันมาด้วยรอยยิ้มสดใส
ถึงอย่างนั้นก็เป็นช็อคโกแลตที่ลิเลียซังทำเองเลยสินะ... อะ อืมม ถ้าได้ซิกซังคอยช่วยดูแลขณะลงมือทำคงไม่น่าห่วงอะไร แต่มันก็... ยังน่ากังวลอยู่หน่อยๆ
ผมรู้สึกไม่สบายใจทุกครั้งที่ได้ยินว่าเป็นอาหารฝีมือลิเลียซังจากประสบการณ์ที่ผ่านมา และเมื่อได้รับอนุญาตผมจึงเปิดกล่อง... หืม? นี่คือ?
ด้านในเป็นช็อคโกแลตรูปหัวใจที่ดูดีเลยทีเดียว แต่... ที่อยากถามคือภาพวาดนั่นต่างหาก มันดูคล้าย “กบโดนบี้” แต่ผมไม่คิดว่าลิเลียซังจะวาดรูปอะไรแบบนั้นลงไปหรอก?
ทะ ทำไงดี!? ถ้าผมมีท่าทีว่าแปลกใจคงไปทำร้ายความรู้สึกลิเลียซัง คิดสิคิด...รีบเค้นหาคำตอบเร็วเข้า...
『 ...ไคโตะซัง? 』
「 อะ อื้ม ไม่มีอะไรครับ แค่กำลังคิดว่าภาพวาดมันสวยมากจนทำให้ผมลุ่มหลงเลย! 」
『 ขะ ขอบคุณนะ! ดีใจจังที่เห็นว่ามีความสุขกับภาพที่ฉันวาด อย่างที่คิด หากจะให้อธิบายในสิ่งที่เป็นตัวฉันที่สุดก็คงเป็น "มังกร" ดังนั้น ฉันเลยวาดเป็น “มังกรดิน” ที่มีเกล็ดสีน้ำตาล! 』
「 อ๋อ เอ๊ะ? งั้นเองเหรอครับ! คะ คิดไว้แล้วเชียว! ว่าต้องเป็นแบบนั้น!!! หืมม~~ จริงด้วยเนอะ มันทั้งดูดีแถมยังแสดงให้เห็นถึงรสนิยมอันยอดเยี่ยม!!! 」
『 ยะ อย่าชมกันนักสิ...บะ แบบนั้นฉันเขินแย่เลย 』
มะ มันคือมังกรสิน้าา~~ งะ งี้นี่เอง คราวหลังผมควรต้องคิดเผื่อไว้บ้างแล้ว... มันเดายากยิ่งกว่าแบบทดสอบต่างๆ นาๆ ที่ผมไม่ถนัดเสียอีก
ถึงอย่างนั้น ดูเหมือนว่าผมจะตอบกลับได้ดีเกินคาด และถึงแม้ว่าลิเลียซังจะดูเขินๆ แต่รอยยิ้มมีความสุขบนใบหน้าก็เป็นของจริง
ขณะที่รู้สึกว่าเหงื่อเย็นๆ เริ่มไหลลงมาตามแนวแผ่นหลังขณะมองดูเธอได้สักพัก ผมก็เพิ่งสังเกตเห็นผ้าพันแผลบนฝ่ามือเธอ
「 ละ ลิเลียซัง! ผ้าพันแผลนั่น? หรือว่าจะได้รับบาดเจ็บ... 」
『 อ๋อ มะ ไม่ใช่หรอก นี่น่ะ เอ่อ...ในตอนที่ฉันทำช็อคโกแลต...ซิกห้ามไม่ให้ฉันใช้เวทเสริมกำลัง เพราะงั้นก็เลยถูกมีดบาดนิดหน่อยน่ะ 』
「 มะ ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ!? 」
『 อะ อื้ม...ก็แค่ "มีดหักไปเล่มนึง" ส่วนฉันได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 』
「 ....... 」
เอ๋~ เหมือนจะเพิ่งได้ยินเรื่องแปลกๆ? ไอ้ที่ว่ามีดหักเพราะดันไปบาดมือลิเลียซังซึ่งไม่ได้ใช้เวทเสริมกำลัง บางทีผมคงแค่ฟังผิดไปเองละมั้ง
พะ พักเรื่องนั้นไว้ก่อนเถอะ การที่ลิเลียซังได้รับบาดเจ็บมันสำคัญกว่า
「 แล้วได้ใช้เวทฟื้นฟูไปหรือยังครับ? 」
『 เอ๊ะ? ยังเลย ทั้งฉันและซิกต่างก็ใช้เวทฟื้นฟูไม่ได้ ในเมื่อเป็นแค่บาดแผลเล็กน้อย แถมฉันยังไม่อยากเฉียดเวลาไปหาหมอตอนนี้ก็เลยใส่ยาฆ่าเชื้อและพันผ้าพันแผลไว้แค่นี้ก่อน 』
「 บะ แบบนั้นไม่ได้สิ แต่ก็... อาา ใช่แล้ว! ผมยังมีผลไม้โลกเหลืออยู่!!! 」
『 ไคโตะซัง!? จะ ใจเย็นก่อน! ของสิ่งนั้นมันมีค่าเกินไปค่ะ... นะ นี่เป็นแค่บาดแผลเล็กน้อยจริงๆ ... ช่วยอย่าเอาสิ่งล้ำค่าแบบนั้นมาวางให้กันส่งๆ บนโต๊ะสิค้าา!!!? 』
เมื่อเห็นว่าลิเลียซังได้รับบาดเจ็บ ผมจึงตื่นตกใจและรีบนำผลไม้โลก 20 ผล ออกมาวางลงบนโต๊ะแบบส่งๆ แต่ลิเลียซังก็รีบห้ามผมให้ใจเย็นก่อน
「 ถะ ถึงงั้นก็เถอะ ไม่เจ็บเหรอครับ? 」
『 ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ แต่ฉันยังสบายดีอยู่จริงๆ อีกไม่นานก็คงหายแล้วละ 』
「 จริงเหรอ... 」
『 ...นอกจากนี้ อืมม มันคือบาดแผลที่ฉันได้รับจากการพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไคโตะซัง ถึงจะแค่เล็กน้อย...แต่ฉันก็รู้สึกภูมิใจในตัวเอง ฮะ ฮ่าๆ เป็นเพราะฉันทำอาหารไม่เก่งเองนี่เนอะ 』
เธอพูดเช่นนั้นด้วยใบหน้าที่แดงเรื่อขึ้นหน่อยๆ รอยยิ้มขวยเขินของลิเลียซังมันดูน่ารักเสียเหลือเกิน บอกตามตรง ผมห้ามใจตัวเองไม่ไหวแล้ว
การได้เห็นแฟนสาวผู้น่ารักลงมือทำอาหารให้กันจนได้รับบาดเจ็บที่มือ พอคิดว่าเธอได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อผมด้วยใจจริง มันทำให้ผมมีความสุขและรู้สึกหลงรักเธอมากกว่าเดิม
「 ไคโตะซัง? 」
ลิเลียซังเอียงศรีษะสงสัยที่จู่ๆ ผมก็ลุกขึ้นยืน และท่าทางอย่างนั้นก็มีส่วนทำให้ผมห้ามใจไม่ได้เข้าไปใหญ่
ผมเดินเข้าไปใกล้ลิเลียซัง โอบกอดร่างของเธอไว้แน่นเท่าที่จะทำได้
『 คิย๊าาา!? คะ ไคโตะซะ ซาน!? 』
「 ...ลิเลียซังจะน่ารักเกินไปแล้วนะ เธอทำให้ผมไม่อาจหักห้ามใจตัวเองได้อีกต่อไป 」
『 เอ๊ะ? เอ๋!!!? ตะ แต่ เอ่อ นะ นี่ยังเช้าอยู่เลยนะ... คือ... 』
「 ...ลิเลียซัง 」
ใบหน้าของลิเลียซังเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำในชั่วอึดใจ ถึงแม้จะยังมีท่าทางสับสนอยู่บ้าง แต่เธอก็ใจอ่อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เธอเป็นคนที่ขี้อายมาก อีกทั้งยังใจดีเป็นที่สุด... อย่างน้อยๆ ในบรรยากาศเช่นนี้ ลิเลียซังก็จะไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน
แล้วก็เป็นดังคาด ลิเลียซังเคลื่อนสายตาไปรอบๆ อย่างขวยเขิน แต่... เมื่อถูกผมกอดไปได้สักพัก เธอก็มองเข้ามาในดวงตาผมพลางผ่อนคลายร่างกายตัวเองลง
『 งืมม〰...เอ่ออ คือ...ไว้เดี๋ยวฉันจะบอกกับทางคฤหาสน์อีกที...แต่วันนี้...ฉันขอค้างที่นี่คืนนึงได้ไหม? 』
「 อื้ม ได้สิครับ 」
『 แล้วก็...ชะ ช่วย...อ่อนโยนกับฉันทีนะ 』
ลิเลียซังเป็นคนน่ารักและมีนิสัยร่าเริงอยู่เสมอ
วันวันนี้ถูกเรียกว่าวันแห่งคู่รัก... ผมจึงมีสิทธิ์ผูกขาดคนรักไว้กับแค่ผมคนเดียวอย่างไม่ต้องสงสัย
และเมื่อหลับตาลง ผมก็ค่อยๆ ขยับใบหน้าไปใกล้ลิเลียซัง สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากเธอผู้เป็นที่รักของผมในอ้อมแขน
ตอนก่อนหน้า หน้าหลัก ตอนต่อไป
————————————————————
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น